• ดังนั้นแนวโน้มของการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจึงยังคงน่าจะยังคงอยู่

• เมื่อพิจารณาจากการแกว่งตัวของ DXY หลังการประชุมที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าดัชนีดอลลาร์ได้มีการดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ 104.5

พอจะคาดเดากับผลที่กำลังจะตามมาได้ไม่ยาก หากเราพิจารณาผลการขึ้นดอกเบี้ยอีก 25 basis point หรือ 0.25% จากการประชุม FOMC เมื่อวันที่ 31 ม.ค. - 1 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา

มีเพียงไม่กี่เสียงในที่ประชุมที่ออกเสียงสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 50 basis point หรือเพิ่มขึ้นอีก 0.50% ซึ่งเป็นไปได้อยู่ไม่น้อย แต่แม้กระนั้น ท่าทีหรือสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้ ดูเหมือนจะยังไม่มากนัก เมื่อเทียบกับที่เราสังเกตุได้จากการประชุมในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามความน่าจะเป็นที่จะหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยซะทีเดียวในตอนนี้ก็ยังไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ปัจจัยที่จะมีต่อผลการพิจารณานั้นอาจจะต้องพิจารณาไปถึงนโยบายของธนาคารกลางอื่นๆในต่างประเทศเป็นหลัก

ท่าทีในที่ประชุมยังแสดงให้เห็นว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปยังคงมีความจำเป็นอยู่ แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะควบคุมสถานการณ์เงินเฟ้อให้มีความทุเลาลงไปแล้วบ้าง แต่ที่ประชุมฯยังคงเห็นพ้องกันว่า ยังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้สถานการณ์เงินเฟ้อดีขึ้นกว่านี้ ดังนั้นแนวโน้มของการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจึงยังคงน่าจะยังคงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชุมในรอบที่ผ่านมา ได้มีการจัดขึ้นไปก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานและยอดการค้าปลีกของเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดเป็นอย่างมาก และน่าจะเป็นผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง

เมื่อพิจารณาจากการแกว่งตัวของ DXY หลักการประชุมที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าดัชนีดอลลาร์ได้มีการดีดตัวขึ้นไปที่ระดับ 104.5 ซึ่งเคยเป็นแนวต้านก่อนหน้า โดยจะต้องทะลุระดับ 104.700 เพื่อทำจุดสูงสุดใหม่ในรายสัปดาห์และรายเดือน โดยเป้าถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 104.820 ซึ่งตรงกับระดับของเส้น EMA 200 ในกราฟรายวัน และเคยเป็นแนวต้านที่เกิดขึ้นบางช่วงของเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา