หลังจากการล้มละลายของธนาคาร Silicon Valley ธนาคาร Credit Suisse ได้เผยถึง "วิกฤต" ในการควบคุมสถานการณ์ทางการเงิน รวมถึงการที่ลูกค้าแห่ถอนเงินออกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินทรัพย์ทั่วโลกเกิดความสั่นคลอน โดยแบงค์ชาติซาอุ (Saudi National Bank) ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดของธนาคารเครดิตสวิส ประกาศยกเลิกการสนับสนุนทางการเงินแก่ธนาคารเครดิตสวิสที่กำลังเผชิญวิกฤตในขณะนี้ ส่งผลให้หุ้นในธนาคารเครดิตสวิสร่วงลงมากกว่า 20% ทั้งนี้ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ได้ประกาศสนับสนุนทางด้านการเงินแก่ธนาคารเครดิตสวิส ทำให้หุ้นในธนาคารเครดิตสวิสฟื้นตัวได้ประมาณครึ่งหนึ่งหลังจากย่อลงมาเมื่อวันพุธ โดยเป็นการพุ่งขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ระดับต่ำกว่า $2.00 อีกด้วย
อย่างไรก็ตามทั่วโลกยังแสดงความกังวลต่อวิกฤตธนาคารที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจชะลอ หรือหยุดการปรับขึ้นดอกเบี้ยไว้ชั่วคราว แม้ในวันพุธที่ผ่านมาดอลลาร์สหรัฐฯจะแข็งค่าขึ้นจากแรงเทซื้อที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยงก็ตาม นอกจากนี้สกุลเงินยุโรปมีการปรับลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเงินยูโรที่เพิ่มขึ้น 0.02% ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาก็ลดลง 1.4% ด้วยเช่นกัน ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 60% ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยจากสหภาพยุโรป 25 จุด (bps) ในวันพฤหัสบดีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าที่มีโอกาสถึง 90% ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 จุด (bps) ทั้งนี้ ECB เตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี เวลา 09.15 น. (EDT)
ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับเงินฟรังก์สวิสฯ เงินปอนด์ยังคงแข็งค่าขึ้น 0.8% รวมถึงเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น 0.58% โดยในช่วงที่นักลงทุนยังมองหาความปลอดภัยในการลงทุน ราคาทองคำยังคงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยพุ่งขึ้น 0.8% ในขณะที่แร่เงินพุ่งขึ้น 0.3% อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบยังคงร่วงลงมากกว่า $5 ต่อบาร์เรล
Looking for Share Trading? Sign up here